วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2559

เตมียชาดก

เตมิยราชกุมาร หรือพระเตมีย์ ทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้ากาสิกราช กับพระนางจันทาเทวี ในพระนครพาราณสี เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์อยู่นั้น วันหนึ่ง ได้ทรงเห็นพระราชบิดา ทรงสั่งให้ลงโทษโจร 4 คน อย่างทารุณ คือ คนหนึ่งให้เฆี่ยนด้วยแส้หนาม หนึ่งพันครั้ง คนหนึ่งให้ล่ามโซ่ตรวนขังไว้ในเรือนจำ คนหนึ่งให้เอาหอกทิ่มแทงให้ทั่วตัว และอีกคนหนึ่ง ให้เสียบด้วยหลาวแหลมจนตาย พระกุมารทรงเห็นแล้วทรงหวาดเสียว สะดุ้งกลัวยิ่งนัก ทรงระลึกชาติในหนหลังได้ว่า เมื่อชาติก่อนนั้น พระองค์เคยเป็นพระราชาแห่งเมืองนี้ เพราะบาปกรรม ที่ทรงกระทำในครั้งนั้น ทำให้พระองค์ต้องตกนรกถึงแปดหมื่นปี บัดนี้ พระองค์กลับมาเกิด ในเมืองนี้อีก ต่อไปก็คงจะได้เป็นผู้ครองเมืองนี้ และกระทำบาปกรรม เช่นเดียวกับพระบิดา ซึ่งก็จะต้องไปสู่นรกอีกแน่นอน เมื่อทรงดำริเช่นนี้แล้ว ทรงสังเวชสลดพระทัย ไม่ทรงปรารถนา ที่จะครองราชสมบัติอีกต่อไป ทรงนึกหาอุบายวิธีที่จะปลีกตัว ให้พ้นจากราชสมบัติ จนพระมนัสหดหู่ เศร้าหมองไม่มีสุข

               ครั้งนั้น เทพธิดาซึ่งเคยเป็นพระมารดาในอดีตชาติ ได้แนะอุบายให้พระกุมาร จึงทรงอธิษฐานจิตให้มั่นคง ไม่หวั่นไหวที่จะปฏิบัติตามอุบายนั้น คือ แสร้งทำเป็นคนง่อย เป็นคนหูหนวก และเป็นใบ้ แม้จะถูกทดสอบอย่างไร ก็ไม่แสดงพิรุธให้ปรากฏ ยอมทนทุกข์ทรมาน โดยไม่ปริปาก จนพระกุมารมีพระชนมายุ 16 พรรษา พวกพราหมณ์พากันทูลทำนายว่า พระกุมารเป็นคนกาลกิณี หากให้อยู่ในพระราชวังจะมีภัยเกิดขึ้น พระราชากาสิกราชจึงตรัสสั่ง ให้นำพระกุมารไปฝังเสียที่ป่าช้า โดยมอบให้นายสารถีขับรถม้า บรรทุกพระกุมารไปจัดการ เพียงผู้เดียว   อ่านเพิ่มเติม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น